“โอเมก้า 3 ! โอเมก้า 3 ! โอเมก้า 3 !”
คุณพ่อคุณแม่คงได้ยินชื่อสารอาหารโอเมก้า 3 (Omega 3) จากสื่อทีวี วิทยุ อินเทอร์เน็ต กันมามากมายหลายช่องทางแล้วใช่ไหมคะ? แต่คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่า แท้จริงแล้วโอเมก้า 3 คืออะไร อยู่ในอาหารชนิดไหนบ้าง สำคัญต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อยอย่างไร วันนี้เรามีสาระน่ารู้ของโอเมก้า 3 ประโยชน์ที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ
โอเมก้า 3 ประโยชน์โดยตรงส่งผลต่อสมองลูก
สมองของลูกน้อยจะมีพัฒนาการอย่างมากในช่วง 2 ปีแรกของชีวิต โดยสมองเด็กวัยนี้จะมีน้ำหนักเป็น 80% ของสมองผู้ใหญ่เลยทีเดียว ดังนั้นการเสริมโภชนาการด้วยสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสมองในช่วงแรกเกิดจึงมีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะโอเมก้า 3 คือกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ รวมทั้งการมองเห็น นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อโภชนาการและสุขภาพของคนเรา ในกระบวนการสังเคราะห์โอเมก้า 3 จะได้กรดไขมันที่จำเป็น 2 ชนิด ได้แก่ กรดอีโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid) หรือ อีพีเอ (EPA) ช่วยลดการอักเสบและลดความเครียด และ กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ ดีเอชเอ (DHA) มีความสำคัญในการพัฒนาและทำหน้าที่ของระบบประสาท ระบบสายตา และระบบสมอง ซึ่งประโยชน์ของโอเมก้า 3 ที่สำคัญ คือ
• เป็นสารตั้งต้นในการสร้างดีเอชเอ(DHA) และอีพีเอ(EPA)
• ช่วยพัฒนาระบบประสาท และสมอง ช่วยให้สมองพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์ประสาท
• บำรุงสายตา เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ในจอประสาทตา
• ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ ช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดอุดตัน และเป็นสารต้านการอักเสบระดับเซลล์ที่ผนังของเส้นเลือด
แหล่งของอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 3 ได้แก่
• ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาแมคคอเรล ปลาจะละเม็ดขาว ปลาสำลี ปลากะพง ปลาทู เป็นต้น
• ปลาน้ำจืด เช่น ปลาดุก ปลาสวาย ปลาช่อน และปลานิล เป็นต้น
• น้ำมันปลา ซึ่งเป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากส่วนต่างๆ ของปลา
เมื่อลูกน้อยมีอายุได้ 1 ปีขึ้นไป จะเริ่มรับประทานอาหารตามวัยครบ 3 มื้อหลัก ควบคู่กับการดื่มนมแม่ คุณแม่ควรให้ลูกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 จากเมนูปลาต่างๆ ประมาณ 2 มื้อต่ออาทิตย์ หรือดื่มนมที่มีโอเมก้า 3 สูง ประมาณ 2-3 มื้อต่อวัน เพื่อช่วยให้สมองของลูกพัฒนาได้อย่างเต็มที่ การเลี้ยงดูให้ลูกน้อยได้รับโภชนาการที่ดี ได้รับสารอาหารจำเป็นต่างๆ รวมถึงได้รับโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นอาหารบำรุงสมองสำหรับลูกน้อยอย่างเพียงพอ จะช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมอง และมีส่วนช่วยให้เติบโตได้เต็มศักยภาพในที่สุด และอย่างลืมเลือกนมที่มีใยอาหารจากธรรมชาติ อย่างโอลิโก
ฟรุคโตส คือ ใยอาหารธรรมชาติ ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดี ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องเสีย ท้องผูก ช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพ เช่น แลคโตบาซีลัส ให้มีความสมดุล ทำให้ระบบขับถ่ายดี และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้
นอกจากโอเมก้า 3 ประโยชน์จำเป็นต่อสมองของลูกแล้ว ยังมีประโยชน์กับตัวคุณแม่เองด้วยเช่นกัน เพราะโอเมก้า 3 มีสารช่วยต้านการอักเสบ ชะลอวัย ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์บางตัวที่ทำลายเซโรโทนิน (Serotonin) สาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า และโรคทางสมองอื่นๆ เมื่อร่างกายของคุณแม่ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เพียงพอก็จะช่วยให้ลดภาวะซึมเศร้า อารมณ์ดี รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ และทำให้ความชราภาพเกิดขึ้นน้อยลงอีกด้วยนะคะ
อย่างไรก็ตาม ทั้งคุณแม่และลูกน้อยควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 ครบหมู่อย่างสมดุล และควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เช่น ปลา หรือ ผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กที่มีโอเมก้า 3 สูง ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และเหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อให้ได้ประโยชน์ และปลอดภัยต่อสุขภาพที่สุดนะคะ