MyFeed Personalized Content
บทความ

PLAYING: ลูกแพ้อาหารใช่อาการเด็กแพ้นมวัวหรือไม่

Add this post to favorites

ลูกแพ้อาหารใช่อาการเด็กแพ้นมวัวหรือไม่

เมื่อลูกแพ้และมีอาการแสดงออกมา คุณพ่อคุณแม่ลองดูเช็คลิส 3 อาการเด็กแพ้นมวัว เพื่อเช็คว่าลูกแพ้อาหารทั่วไปหรือแพ้นมวัวกันแน่ พร้อมวิธีดูแลลูกน้อยอย่างถูกวิธี

2นาที อ่าน

ตรวจทานความถูกต้องโดย ศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์ 

ทำความเข้าใจโรคแพ้โปรตีนนมวัวในเด็ก พร้อมวิธีสังเกตอาการว่าลูกน้อยเข้าข่ายเด็กแพ้นมวัวหรือไม่ เพื่อการดูแลลูกอย่างถูกวิธีเพราะเรื่องแพ้ไม่ใช่เรื่องเล็ก

เมื่อลูกแพ้อาหาร คุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้าระวัง และสังเกตอาการเมื่อลูกเกิดอาการแพ้หลังจากการรับประทานอาหาร การแพ้อาหาร คือ เมื่อลูกรับประทานอาหารเข้าไปแล้วเกิดความผิดปกติ อย่างเช่น ผดผื่นขึ้นตามร่างกาย หรืออาการปวดท้อง โดยการแพ้อาหารในเด็ก เป็น 1 ในอาการแพ้ที่พบมากที่สุด ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม และหากลูกมีผดผื่น ปวดท้อง หรือ คัดจมูกหลังจากการกินนม อาจเกิดจากการที่ลูกแพ้นมวัว!!!

 

ไขข้อข้องใจ “ลูกแพ้นมวัว” เกิดจากอะไร? ทำความรู้จักกับโรคแพ้โปรตีนนมวัว (Cow milk protein allergy)

 

โรคแพ้นมวัว คือ โรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งในกลุ่มแพ้อาหาร ซึ่ง นมวัว เป็นอาหารที่เด็กแพ้เป็นส่วนมาก รองลงมาคือไข่โดยเฉพาะไข่ขาว คาดว่าพบได้ประมาณ 10%ในวัยทารก และพบว่ามากกว่า 60% ของเด็กที่แพ้นมวัวจะมีอาการหายไปเมื่ออายุ 1 หรือ 2 ปี ถ้ามีการหลีกเลี่ยงการบริโภคนมวัวอย่างเด็ดขาด ขณะที่เด็กอีก 40% อาจยังแสดงอาการแพ้อยู่จนถึงอายุ 5 ปี 

อาการเด็กแพ้นมวัว จะมีอาการ ผื่นลมพิษ หรือเกิดผื่นแพ้ผิวหนัง น้ำมูกไหล ไอแห้ง คัดจมูก อาเจียน ถ่ายเหลว ถ่ายมีมูกปนเลือด การแพ้ครั้งแรกถ้าเป็นจากการแพ้เฉียบพลันมักจะมีอาการเกิดขึ้นภายใน 1-2 วัน แต่ถ้าอาการรุนแรงมากอาจเกิดภายใน 1-2 ชั่วโมงได้ และถ้าเป็นการแพ้แบบเกิดล่าช้า อาจมีอาการภายใน 1-3 เดือน หลังจากได้รับประทานนมวัว หรือ อาหารที่มีส่วนประกอบของนมวัว โดยการแพ้เกิดจากปฏิกิริยา ภูมิคุ้มกันร่างกาย และระดับความรุนแรงแตกต่างกัน ที่สำคัญคือ อาการเหล่านี้มักจะต้องเป็นแบบเรื้อรัง เป็นๆหายๆ และมักมีอาการมากกว่าสองระบบ เช่น ทางเดินอาหารร่วมกับผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งโรคแพ้นมวัวมักพบในทารกมากกว่าเด็กโตและผู้ใหญ่ และพบว่าสาเหตุหลักมาจากกรรมพันธุ์ และสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น อาหารที่แม่รับประทานตอนตั้งครรภ์เพื่อการบำรุงทารกในครรภ์ เช่นทานนมวัว นมถั่วเหลือง ไข่ แป้งสาลี มากกว่าสภาวะปกติก่อนตั้งครรภ์ และนมที่ทารกได้รับในช่วง 6 เดือนแรกเกิด ที่ส่งผลให้เด็กอาจเป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวได้ 

แม้ “นมวัว” อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติ จากการไปกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่ในกรณีที่มีอาการทางลำไส้อาจเกิดจากภาวะย่อยแลคโตสผิดปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ร่างกายมีเอนไซม์แลคเตสไม่เพียงพอที่จะย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมวัว ไม่ได้เกิดจากการแพ้แลคโตสในนม ซึ่งเด็กกลุ่มนี้สามารถทานนมวัวที่ไม่มีแลคโตสได้โดยไม่มีอาการ แต่ถ้ามีอาการก็สรุปได้ว่าน่าจะแพ้นมวัวจริง

 

รู้ได้อย่างไรว่าลูกแพ้นมวัว

 

อาการลูกแพ้นมวัว หรือการแพ้โปรตีนนมวัวของเด็กแต่ละคนอาจแสดงออกมาไม่เหมือนกัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องอาศัยการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และหากไม่แน่ใจกับอาการที่เกิดขึ้นก็ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการหาสาเหตุที่แท้จริง

 

1. ประเมินความเสี่ยง

 

จากที่ได้บอกไปว่าโรคแพ้นมวัว หรือแพ้โปรตีนนมวัว มีสาเหตุหลักมาจากกรรมพันธุ์ ดังนั้นหากคุณพ่อ คุณแม่ มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะแสดงอาการทางผิวหนัง ทางเดินหายใจ หรือที่ตา แพ้ยาหรือแพ้อาหาร หรือเคยมีลูกแพ้โปรตีนนมวัว ก็อาจส่งผลให้ลูกน้อยมีความเสี่ยงของการแพ้โปรตีนนมวัวที่เพิ่มขึ้น ยิ่งขณะที่ตั้งครรภ์คุณแม่ดื่มนมวัว หรืออาหารที่ประกอบไปด้วยนมวัวในปริมาณมากกว่าปกติ ก็อาจส่งผลให้ลูกน้อยเป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าการที่คุณแม่ผ่าคลอดอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ลูกจะเกิดภูมิแพ้ได้มากกว่าการคลอดธรรมชาติอีกด้วย รวมถึงการไม่ได้ทานนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก

 

2. สังเกตอาการลูกแพ้นมวัว

 

โรคแพ้นมวัว มีอาการที่ค่อนข้างหลากหลายแตกต่างกันไป เช่น ท้องเสีย ถ่ายปนมูกเลือด ผื่นแพ้นมวัว ลมพิษ น้ำมูกไหล คัดจมูก หายใจครืดคราด มีตั้งแต่ที่เป็นเฉียบพลันทันที และเป็นเรื้อรังจนทำให้ลูกน้อยอาจมีการเจริญเติบโตที่ช้ากว่าเกณฑ์ โดยคุณแม่สามารถสังเกตได้จากกราฟการเจริญเติบโต ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการที่ค่อนข้างแยกจากโรคอื่นๆ ได้ยาก ทั้งนี้หากลูกน้อยมีอาการผิดปกติคุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอตรวจวินิจฉัยว่าลูกน้อยเป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวหรือไม่

 

การวินิจฉัยอาการเด็กแพ้นมวัว

 

วิธีที่จะบอกว่าลูกน้อยมีภาวะแพ้นมวัวนั้นไม่ง่าย เพราะสัญญาณของอาการแพ้แสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ และอาจคล้ายคลึงกับสัญญาณของอาการแพ้อื่นๆ อย่างไรก็ดี 3 อาการหลักเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงภาวะแพ้โปรตีนในนมวัวได้ อาการเด็กแพ้นมวัวมักจะมีอาการมากกว่าหนึ่งระบบ หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยให้ลองสังเกตอาการเหล่านี้

 

อาการเด็กแพ้นมวัวแสดงออกทางระบบทางเดินอาหาร

 

o ปวดท้อง
o อาเจียน ท้องเสีย
o ถ่ายเป็นมูกเลือด
o ไม่โตตามวัยเพราะระบบการดูดซึมอาหารผิดปกติ

 

อาการเด็กแพ้นมวัวแสดงออกทางทางระบบทางเดินหายใจ

 

o มีน้ำมูกเรื้อรัง คัดจมูก มีเสมหะเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก หายใจเสียงดังวี๊ด

 

อาการเด็กแพ้นมวัวแสดงออกทางทางผิวหนัง

 

o ผื่นแพ้นมวัว จะพบได้ทั้งแบบผื่นลมพิษ โดยจะเป็นผื่นแดง นูน ขอบเขตชัดเจน คัน ทั้งตัว หรือเป็นบางส่วนของร่างกาย หรืออาจเป็นผื่นเหมือนเม็ดทราย หรือเป็นตุ่มน้ำเหลืองเล็กๆ ก็ได้ การจะรู้ได้ว่าผื่นเกิดจากการแพ้นมวัวหรือไม่นั้น คุณแม่อาจลองสังเกตอาการลูก โดยการให้ลูกงดนมวัวประมาณ 1- 2 สัปดาห์ ว่าอาการผื่นคันหายไปหรือไม่ หากสงสัยว่าลูก มีอาการเเพ้นมวัวควรพาลูกไปพบกุมารแพทย์ด้านโรคภูมิแพ้เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม
โดยอาการแพ้นมวัวโดยทั่วไปมักมี 3 อาการหลักตามข้างต้น โดยอาจเกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้และจะเกิดขึ้นไม่เกิน 4-12 สัปดาห์หลังได้รับนมวัว

ส่วนอาการแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylactic Reaction) ที่เกิดกับระบบไหลเวียนโลหิตร่วมกับการมีภาวะความดันโลหิตต่ำอย่างเฉียบพลัน ที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วนยังพบได้น้อยในกลุ่มเด็กที่แพ้โปรตีนในนมวัว

หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกแพ้นมวัว ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อทำการทดสอบโรคภูมิแพ้ โดยคุณหมอจะทำการทดสอบทางผิวหนัง (การตอบสนองทันทีต่อสารก่อภูมิแพ้) หรือจากการเจาะเลือด หรือการทดสอบการตอบสนองของร่างกายด้วยการลองทาน ซึ่งขึ้นกับอาการแสดงและความรุนแรง

 

ครอบครัวที่มีภาวะภูมิแพ้ ส่งผลให้ลูกมีภาวะภูมิแพ้ด้วยหรือไม่?

 

การที่พ่อ-แม่ หรือพี่ เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ได้สูงขึ้น แต่อาจเป็นภูมิแพ้คนละชนิดกันได้ และความรุนแรงของโรคภูมิแพ้ก็ไม่ได้สัมพันธ์กับประวัติที่มีโรคภูมิแพ้ในครอบครัวด้วย

 

ดูแลอย่างไรเมื่อลูกแพ้นมวัว

 

ในประเทศไทย โรคแพ้นมวัว หรือแพ้โปรตีนนมวัว เป็นโรคที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การเจริญเติบโต และพัฒนาการ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น และอาจอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่ จึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจในโรคนี้เพื่อลดความรุนแรงและอาการเรื้อรังที่อาจจะเกิดกับลูกน้อย

 

• อาหารสำหรับเด็กที่มีภาวะแพ้นมวัว

 

หลังจากเดือนที่ 6 คุณแม่สามารถเสริมอาหารตามวัย โดยเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของนมวัว คุณแม่ควรเรียนรู้ส่วนประกอบที่อยู่บนฉลากของผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงโปรตีนจากนมวัวในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ นมผง เคซีน เคซีนเนต แลคโตโกลบูลิน แลคตัลบูมิน เวย์ ฯลฯ  ซึ่งลูกสามารถเริ่มอาหารเสริมตามวัยอื่นๆ เช่น ข้าวสวย แครอท ฟักทอง ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ ไข่แดง เพื่อให้ลูกได้สารอาหารเหมาะสมตามวัยได้ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรทำ อาหารด้วยตัวเอง  เพื่อรู้ถึงวัตถุดิบที่ใช้ นอกจากนี้ยังควรติดตามการเจริญเติบโตของลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่าลูกน้อย ได้สารอาหารครบถ้วนหรือไม่ หากลูกกินนมแม่ คุณแม่ก็จำเป็นต้องงดอาหารกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนมด้วยเช่นกัน เพราะโปรตีนในนมวัวสามารถถูกส่งผ่านทางนมแม่ได้

 

• ตรวจสม่ำเสมอ ห่างไกลโรคแพ้นมวัว

 

แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยเข้ารับการตรวจรักษาจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากโรคแพ้นมวัวนั้นมีโอกาสที่จะหายได้เมื่อลูกโตขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่มีการดูแลโภชนาการอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่ลูกแพ้ ประกอบกับการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และทดสอบอาการแพ้เป็นระยะๆ โดยแพทย์ และทำตามคำแนะนำของแพทย์ก็จะทำให้ลูกมีโอกาสหายขาดจากโรคแพ้นมวัว หรือลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้

 

โภชนาการคุณแม่ ส่งต่อสู่ลูกได้ 

 

นมแม่มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด รวมทั้งโปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน และ 2’FL ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่พบในนมแม่ ที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภูมิแพ้ได้ เพราะ
• นมแม่มีโปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน และมีเวย์โปรตีนสูงซึ่งย่อยง่าย จึงทำให้ดูดซึมได้ดีกว่า เนื่องจากลูกในช่วง 6 เดือนแรก เยื่อบุทางเดินอาหารยังไม่แข็งแรง รวมถึงน้ำย่อยอาหารยังมีไม่มาก และสารภูมิคุ้มกันที่จะคอยดักจับสิ่งแปลกปลอมยังมีไม่มากพออีกด้วย ดังนั้นการได้รับนมแม่จึงช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ได้ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมที่แข็งแกร่งให้กับร่างกายลูกด้วยค่ะ  

• โปรตีนนมแม่เป็นชนิดที่ไม่แปลกปลอม จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้ เมื่อลูกกินนมแม่ก็จะทำให้ได้รับโปรตีนชนิดดี ย่อยง่าย และมีสารภูมิคุ้มกันที่จะไปเคลือบเยื่อบุลำไส้ เปรียบเหมือนเป็นการสร้างเกราะป้องกันลำไส้ให้กับลูกน้อยเพื่อลดอาการแพ้ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้  

• นอกจากนี้ยังพบว่าในนมแม่มี 2’FL โอลิโกแซคคาไรด์ซึ่งเป็นพรีไบโอติกส์ชนิดที่พบมากที่สุดในนมแม่ และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลายสายพันธุ์ เช่น บิฟิดัส บีแอล ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและ ลดความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้ โดยสังเกตได้จากทารกที่ได้รับนมแม่จะมีการเกิดภูมิแพ้น้อยกว่า และมีภูมิคุ้มกันที่ดีกว่า

ดังนั้นการทานนมแม่ให้นานที่สุดอย่างน้อย 6 เดือนหรือนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเป็นการป้องกัน และลดอาการแพ้โปรตีนนมวัว  การได้รับนมแม่จะช่วยป้องกันการเกิดการแพ้อาหารเพราะทำให้ลดการสัมผัส โปรตีนแปลกปลอม เพิ่มปริมาณ secretory IgA นมแม่จะกระตุ้นให้ระบบทางเดินอาหารมีกลไกการป้องกันโรค และช่วยให้ภูมิคุ้มกันมีการพัฒนาจนสมบูรณ์ได้รวดเร็วขึ้น  

อย่างไรก็ดี หากให้นมแม่อย่างเดียวแล้ว ลูกยังมีอาการแพ้เหมือนเดิม คุณแม่ควรงดนมวัว และอาหารที่ประกอบด้วยนมวัวทุกชนิด เนื่องจากโปรตีนจากอาหารที่คุณแม่รับประทาน อาจส่งผ่านน้ำนมสู่ลูกได้  แต่คุณแม่ยังสามารถกินเนื้อวัวได้อยู่นะคะ เนื่องจากเป็นโปรตีนคนละตัวกับในนมวัวนั่นเองค่ะ  

เมื่อลูกแพ้นมวัว สิ่งสำคัญที่คุณแม่ต้องมี คือ ความรู้คู่กับความรัก คุณแม่มีความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลลูกน้อย ส่วนความรัก คือ การให้เวลาใส่ใจ ติดตามอาการ และความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อย เพื่อช่วยให้การดูแลลูกน้อยอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของลูกน้อยของเราในอนาคตได้นั่นเองค่ะ
 

เอกสารอ้างอิง

- ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย. Allergy. สืบค้นจาก http://www.thaipediatrics.org/pages/Doctor/Detail/44/198
- ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (2555). แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษา โรคแพ้โปรตีนนมวัว (Cow milk Protein Allergy). ตีพิมพ์เมื่อ มีนาคม 2555 
- สมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืดและวิทยาภูมิคุ้มกันกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (2563) . แนวทางปฏิบัติในการป้องกันโรคภูมิแพ้ของประเทศไทย. สืบค้น จาก http://allergy.or.th/2016/pdf/AAIAT_Thai_Allergy_Prevention_Guideline_20... 
- ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และชมรมส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. คู่มือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับแพทย์ประจำบ้าน สาขาสูตินรีเวชวิทยา. สิงหาคม (2548)