MyFeed Personalized Content
พัฒนาการลูก 0-36 เดือน
บทความ

PLAYING: อาหารเสริมเด็ก ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน อาหารเสริมสำหรับเด็กตามวัย

Add this post to favorites

อาหารเสริมเด็ก ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน อาหารเสริมสำหรับเด็กตามวัย

อาหารมีบทบาทสำคัญต่อวัยทารกเป็นอย่างมาก เพราะหนูน้อยวัยนี้ต้องการอาหารเพื่อไปเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน พัฒนาสมอง และส่งเสริมร่างกายให้แข็งแรง มีการศึกษาจำนวนมากที่ชี้ชัดว่าหากลูกน้อยในวัยทารกขาดสารอาหารจะทำให้จำนวนและขนาดของเซลล์ในสมองลดน้อยลง ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการช้ากว่าปกติได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ลูกได้รับอาหารเสริมตามวัยเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีพัฒนาการทางสมองที่ดี (1)

1นาที อ่าน

อาหารเสริมตามวัย คืออะไร?

อาหารเสริมตามวัย คือ อาหารอื่น ๆ ที่ทารกได้รับนอกเหนือจากอาหารมื้อปกติตามช่วงวัย เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสติปัญญาในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก ควรกินนมแม่เพียงอย่างเดียวเพราะในนมแม่มีสารอาหารครบถ้วนและ พียงพอต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยแล้ว ส่วนลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไป จำเป็นต้องได้รับอาหารเสริมตามวัย ที่เหมาะสมเพิ่มเติมจากนมแม่ เพื่อสุขภาพและพัฒนาการที่ดีของเจ้าตัวเล็ก

วิตามินและอาหารเสริมสำหรับเด็กชนิดไหนบ้าง ที่ลูกน้อยต้องการ

เด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถเริ่มอาหารเสริมตามวัยแทนนมแม่ได้ 1 มื้อ เมื่ออายุได้ 9-11 เดือน ควรได้รับอาหารเสริมตามวัย 2-3 มื้อ และสามารถกินอาหารได้ 3 มื้อ เมื่อมีอายุ 12 เดือนขึ้นไปควบคู่กับนมแม่ โดยเน้นให้ลูกกินที่หลากหลาย หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสจัด และการใช้ผงปรุงรส เพื่อให้ลูกน้อยได้รับคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายอย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับชนิดและปริมาณที่เหมาะสมสำหรับอาหารเสริมตามวัย ซึ่งวิตามินที่ลูกน้อยต้องการในแต่ละวัน ได้แก่

  1. วิตามินดีสำหรับเด็ก

    • ประโยชน์ของวิตามินดี: มีส่วนสำคัญของกระดูกและฟัน และเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
    • ข้อดีของวิตามินดี: ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสได้ที่ทางเดินอาหารได้ดี เพิ่มปริมาณมวลกระดูก ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง รวมถึงการดูดซึมวิตามินเอด้วย
  2. วิตามินซีสำหรับเด็ก

    • ประโยชน์ของวิตามินซี: มีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน และเกี่ยวข้องกับการพัฒนาสมองของเด็ก
    • ข้อดีของวิตามินซี: ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก และมีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระ
  3. วิตามินเอสำหรับเด็ก

    • ประโยชน์ของวิตามินเอ: มีส่วนสำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง การเจริญเติบโตของเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ และสร้างการมองเห็น
    • ข้อดีของวิตามินเอ: ช่วยในการมองเห็น เสริมสร้างเซลล์และระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อย
  4. ธาตุเหล็กสำหรับเด็ก

    • ประโยชน์ของธาตุเหล็ก: เป็น ส่วนประกอบสำคัญของ เม็ดเลือดแดง มีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก6
    • ข้อดีของธาตุเหล็ก: ธาตุเหล็กหรืออาหารเสริมธาตุเหล็ก  ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง และทำให้ร่างกายแข็งแรง หากลูกน้อยขาดธาตุเหล็กตั้งแต่ยังเล็กอาจส่งผลต่อสมาธิและสติปัญญาในระยะยาวได้

อาหารตามวัยหรืออาหารเสริมสำหรับเด็ก แบบใดที่ลูกน้อยต้องการ

อาหารเสริมเด็กหรือวิตามิน จำเป็นต่อลูกน้อยจริงหรือไม่

การให้อาหารเสริมเด็กตามวัยในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อย ควบคู่กับการกินนมแม่ เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารครบถ้วนเพียงพอต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมอง โดยอาหารเสริมที่ได้รับควรมีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ และวิตามิน ซึ่งได้จากกินอาหารที่หลากหลาย กินผักและผลไม้เป็นประจำ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ไม่ควรให้เด็กกินอาหารที่มีการปรุงแต่งด้วยผงชูรส หรือปรุงรสที่หวานจัด เค็มจัด หรือมันมากเกินไป หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและคาเฟอีน และขนมขบเคี้ยวที่เหนียวติดฟัน ที่สำคัญอาหารต้องสะอาดปลอดภัยเพื่อสุขภาพที่ดีของเด็ก (13)

ควรให้ลูกกินอาหารเสริมสำหรับเด็กเมื่อไหร่

คุณแม่ควรให้ลูกน้อยเริ่มอาหารเสริมสำหรับเด็กได้เมื่อลูกมีอายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป เ พราะระบบย่อยอาหารของทารกยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ จึงย่อยอาหารได้ไม่ดีนัก ทั้งนี้ คุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอถึงความพร้อมในการเริ่มอาหารเสริมสำหรับลูกน้อย เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความพร้อมที่แตกต่างกัน (2,8,13)

โภชนาการในวัยเด็กมีความสำคัญต่อการเติบโตของลูกมากที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องให้เด็ก ๆ ได้ทานอาหารที่ครบถ้วนและหลากหลาย  โดยที่ทารกควรได้กินนมแม่อย่างเดียว ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน และควรกินต่อเนื่องไปจนลูกอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น ควบคู่กับอาหารตามวัยที่เหมาะสม เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด รวมถึงจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์  LPR  ที่่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน  ลดการติดเชื้อระบบทางเดินหายในส่วนบน และสร้างสมดุลที่ดีในระบบทางเดินอาหารในเด็ก ทำให้ลูกน้อยมีร่างกายที่แข็งแรงและพัฒนาการที่ดีในระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องเสริมวิตามินหรืออาหารเสริมเด็กแต่อย่างใด ยกเว้นลูกน้อยได้รับการวินิจฉัยจากคุณหมอว่าจำเป็นต้องได้รับวิตามินเพิ่ม เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและสารอาหารให้เพียงพอต่อการเติบโตของเจ้าตัวเล็ก

อ้างอิง:

  • คู่มือการให้อาหารทารก, กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  • ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2546, ก องโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  
  • วิตามินดี สำหรับเด็ก, โรงพยาบาลสมิติเวช
  • 190 เมนูชูสุขภาพ เมนูคู่ครอบครัวไทย, กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข 
  • อาหารเสริมสำหรับเด็ก จำเป็นต่อลูกน้อยจริงหรือ ?, pobpad
  • Vitamins for children, NHS
  • วิตามิน รับประทานอย่างไรให้ปลอดภัย, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ 
  • When, What, and How to Introduce Solid Foods, Centers for Disease Control and Prevention [30 ส.ค. 2566]
  • Nutrition and healthy eating, Mayo Clinic 
  • Zarban A, et. al, Effect of vitamin C and E supplementation on total antioxidant content of human breastmilk and infant urine. Breastfeed Med. 2015 May;10(4):214-7
  • อาหารวัยทารก, ฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราช
  • ประโยชน์ของ ธาตุเหล็กในเด็ก, โรงพยาบาลนนทเวช
  • คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

อ้างอิง ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2566