วิธีสังเกตอาการทารกแพ้อาหาร พร้อมวิธีป้องกันภูมิแพ้อาหารในเด็ก
สาเหตุที่ทำให้ทารกแพ้อาหารเป็นเรื่องซับซ้อนและมีปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งส่งผลต่อการแสดงออกของอาการที่แตกต่างกัน วิธีป้องกันที่ดีคือพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่คาดว่า น่าจะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ลูกน้อยเกิดการแพ้ ควบคู่กับการเข้ารับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและกุมารแพทย์โรคภูมิแพ้ เราได้รวบรวมคำตอบของสิ่งที่คุณแม่อยากรู้เกี่ยวกับอาการทารกแพ้อาหารของลูกน้อยมาฝาก
PLAYING: วิธีสังเกตอาการทารกแพ้อาหาร พร้อมวิธีป้องกันภูมิแพ้อาหารในเด็ก
สรุป
- เด็กที่แพ้อาหาร จะมีอาการอาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ลมพิษ ริมฝีปากและลิ้นบวม ผื่นแพ้ หอบหืด และมีอาการติดเชื้อซ้ำที่หู จมูก และคอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบการเจริญเติบโตของเด็กได้ หากมีอาการเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้
- การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้อาหารได้ เพราะนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด และยังมีคุณสมบัติเป็น Hypo-Allergenic หรือ H.A. ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ และช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อต่าง ๆ ได้
- ปัจจุบันยังไม่มียาตัวใดที่สามารถรักษาอาการแพ้อาหารได้ แต่โดยปกติอาการเด็กแพ้อาหารจะหายไปเมื่อลูกเติบโตขึ้น ดังนั้นลูกควรได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยป้องกันการแพ้อาหารในทารกได้จริงหรือ?
- เด็กแพ้อาหาร ทารกแพ้อาหารมีอาการอย่างไร?
- อาหารที่มักทำให้ทารกแพ้อาหาร
- มีเรื่องอะไรบ้าง ที่คุณแม่ควรรู้เกี่ยวกับภูมิแพ้ในเด็ก
- ใครควรเป็นผู้วินิจฉัยโรคภูมิแพ้ในเด็ก
- การแพ้อาหาร ทารกแพ้อาหาร สามารถรักษาให้หายได้หรือไม่
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยป้องกันการแพ้อาหารในทารกได้จริงหรือ?
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้อาหารได้ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีความเสี่ยงสูงและมีประวัติภูมิแพ้ อย่างการแพ้โปรตีนในนมวัว การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด และยังมีคุณสมบัติเป็น Hypo-Allergenic หรือ H.A. ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ได้ด้วย และควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วงแรกเกิด เพื่อช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อต่าง ๆ และช่วยให้ระบบย่อยอาหารของลูกพัฒนาได้สมบูรณ์มากขึ้น จากนมแม่ที่มีพรีไบโอติก โอลิโกแซคคาไรด์ใยอาหารหลักที่สำคัญ ซึ่งโอลิโกแซคคาไรด์ ประกอบด้วยใยอาหารหลากหลายชนิด และมี 5 ใยอาหารหลัก(5 Oligosaccharide หรือ 5 HMO เช่น 2’FL, DFL, LNT, 6’SL และ 3’SL) และยังมีโพรไบโอติกหลายชนิด เช่น B. lactis (บีแล็กทิส) ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้ ควบคู่กับการให้อาหารเสริมที่เหมาะสมกับลูกน้อยแต่ละช่วงวัย
เด็กแพ้อาหาร ทารกแพ้อาหารมีอาการอย่างไร?
ทารกแพ้อาหาร ขึ้นอยู่กับอาหารที่แพ้ ส่วนใหญ่อากาเด็กแพ้อาหารที่พบ มีตั้งแต่การอาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ลมพิษ ริมฝีปากและลิ้นบวม ผื่นแพ้ หอบหืด และมีอาการติดเชื้อซ้ำที่หู จมูก และคอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบการเจริญเติบโตของเด็กได้
อาหารที่มักทำให้ทารกแพ้อาหาร
อาหาร 4 อย่างที่เป็นสาเหตุหลักของการแพ้ในเด็ก ตั้งแต่เริ่มต้นให้อาหารเสริมจนลูกอายุ 3 ปี ได้แก่
1. ไข่
ส่วนมากแล้วเด็กจะสามารถทานไข่แดงได้ และมักจะแพ้ไข่ขาวมากกว่าไข่แดง ถ้าลูกได้รับการวินิจฉัยว่าแพ้ไข่ ควรอ่านฉลากและส่วนประกอบอย่างระมัดระวัง เพราะหลายผลิตภัณฑ์ผลิตขึ้นโดยมีไข่เป็นส่วนประกอบ นักโภชนาการสามารถช่วยสอนการอ่านฉลากอาหารได้ ที่สำคัญคืออาหารทุกชนิดที่จะให้ลูกกินต้องปรุงให้สุกสนิท 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ควรเป็นกึ่งดิบกึ่งสุก โดยเฉพาะไข่
2. แป้งสาลี
มีกลูเตนเป็นโปรตีนที่พบในธัญพืช เช่น ข้าวไรย์ ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี (รวมถึงขนมปังที่ทำจากแป้งสาลีและข้าวสเปลท์) และข้าวบาร์เลย์ ทันทีที่แพทย์วินิจฉัยว่าลูกน้อยแพ้แป้งสาลี ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ทำจากธัญพืชต้องนำออกจากรายการอาหาร แนะนำว่าควรให้เด็กได้รับแป้งสาลีหลังอายุ 6 เดือนขึ้นไป แม้จะไม่เคยมีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัวมาก่อนก็ตาม ส่วนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการแพ้กลูเตน (Coeliac Disease) ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย
3. ถั่วลิสง
เช่นเดียวกับไข่ และแป้งสาลี ถั่วลิสงมีอยู่ในหลายผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด ถ้าลูกได้รับการวินิจฉัยว่าแพ้ถั่วลิสงจึงต้องอ่านฉลากเพื่อดูว่ามีส่วนประกอบของถั่วลิสงหรือไม่ คุณอาจให้ลูกชิมเนยถั่วลิสงธรรมชาติในปริมาณน้อย ๆ ตอนเริ่มให้ลูกกินอาหารเสริมตามวัยในขวบปีแรก
4. โปรตีนนมวัว
การแพ้โปรตีนในนมวัวเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในเด็กทารก แม้การแพ้นมวัวจะทำให้การเลี้ยงลูกของคุณยุ่งยากขึ้น แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และแพทย์ทั่วไปสามารถให้คำแนะนำที่ดีได้ เมื่อลูกเติบโตขึ้นการแพ้โปรตีนในนมวัวก็อาจจะหายไป
มีเรื่องอะไรบ้าง ที่คุณแม่ควรรู้เกี่ยวกับภูมิแพ้ในเด็ก
- ต้มผลไม้และผักให้สุกอย่างทั่วถึง (ก่อนจะนำมาบดละเอียด) เพราะการทำให้สุกจะช่วยลดคุณสมบัติในการเป็นสารก่อภูมิแพ้ได้
- เริ่มให้อาหารชนิดใหม่ทีละอย่าง ๆ ติดต่อกันอย่างน้อย 3 วัน และควรให้ในตอนเช้า เพื่อจะได้สังเกตอาการในระหว่างวัน
- เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะโปรตีนในนมแม่บางส่วน ได้ถูกย่อยให้มีขนาดเล็กลง หรือที่เรียกว่า PHP (Partially Hydrolyzed Proteins ) ซึ่งง่ายต่อการดูดซึมเข้าร่างกายของลูกน้อย ควบคู่กับการให้ลูกกินอาหารเสริมโภชนาการช่วง 6 เดือนแรก ที่เหมาะสมกับแต่ะช่วงวัย
ใครควรเป็นผู้วินิจฉัยโรคภูมิแพ้ในเด็ก
ช่วงแรกแพทย์ที่ดูแลอาจสั่งให้ตรวจเลือด ก่อนจะแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ และคุณยังสามารถไปพบกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ได้ด้วย
การแพ้อาหาร ทารกแพ้อาหาร สามารถรักษาให้หายได้หรือไม่
ยังไม่มียาตัวใดในปัจจุบันที่สามารถรักษาอาการแพ้อาหารได้ อย่างไรก็ดี มันเป็นไปได้ที่อาการเด็กแพ้อาหารจะหายไปเมื่อลูกเติบโตขึ้น ดังนั้นแพทย์อาจนัดทดสอบการแพ้อาหารของลูก เมื่อทารกแพ้อาหารภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- ผื่นทารก ลูกเป็นผื่นแดงทั้งตัว ปัญหาผิวผื่นทารกในเด็ก
- ผื่นขึ้นหน้าทารก ทำไงดี พร้อมวิธีแก้ผดผื่นบนใบหน้าทารก
- ลูกเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ คัน ลูกเป็นผื่น ดูแลลูกแบบไหนให้ถูกวิธี
- ผื่นคันในเด็ก ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัวแต่ไม่มีไข้ พร้อมวิธีดูแลลูก
- ลูกเป็นผื่นผิวสาก ๆ เกิดจากอะไร พร้อมวิธีดูแลทารกมีผื่นสาก
- ลูกเป็นผื่นแพ้เหงื่อ ผื่นแพ้ในเด็กเกิดจากอะไร พร้อมวิธีดูแล
- ผื่นลมพิษในเด็ก เกิดจากอะไร ทำไมพ่อแม่ยุคใหม่ ควรใส่ใจเป็นพิเศษ
- ผื่นแพ้อาหารทารก พร้อมวิธีป้องกันลักษณะผื่นแพ้อาหารทารก